เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า แสงแดด และ รังสียูวี เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดรอยดำ ฝ้า กระ บนใบหน้า แสงแดดยังทำร้ายผิวได้มากกว่าที่เราคิด เพราะสามารถทำลายเซลล์ผิวได้ลึกถึงระดับดีเอ็นเอ ทำให้ดีเอ็นเอเสียหาย เป็นผลให้เซลล์ทำงานผิดปกติ และทำให้ผิวแก่ไว
แม้ว่าการปกป้องผิวที่ดีที่สุดคือการทาครีมกันแดดเป็นประจำ แต่ก็อาจ ยังมีบางส่วนของรังสียูวีที่ทะลุลงไปทำลายผิวเราได้ โดยเฉพาะรังสี UVB ที่สามารถทำลายดีเอ็นเอของเซลล์ได้โดยตรง (directDNAdamage)
รังสี UVB สามารถทำให้โมเลกุลดีเอ็นเอที่ใกล้ชิดกันเชื่อมติดกันเหมือนปลาท่องโก๋ เกิดเป็นสารที่เรียกว่า Dimer เช่น Cyclobutane Pyrimidine Dimer (CPDs) และสาร Pyrimidine (6-4), Pyrimidine Photoproducts (6-4 PPs) เป็นต้น
สาร Dimer ที่เกิดขึ้นนี้ จะทำให้โครงสร้างและการทำงานของดีเอ็นเอผิดปกติ แต่ความผิดปกติที่เกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยจะยังไม่มีผลต่อเซลล์มากนัก
เมื่อผิวถูกทำร้ายด้วยแสงแดดและรังสียูวีซ้ำๆ เป็นระยะเวลานาน ความเสียหายของดีเอ็นเอก็จะถูกสะสมไว้ในเซลล์ มากจนกระทั่งทำให้เซลล์เกิดความเสียหาย เซลล์ผิวแก่เร็ว และการเกิดรอยด่างดำ ฝ้า กระ ซึ่งเป็นการตอบสนองของผิวที่เสียหาย หรือในคนที่โชคร้าย ดีเอ็นเอเกิดความเสียหายในตำแหน่งที่ทำให้เกิดการกลายพันธุ์จน ทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้ การปกป้องผิวด้วยครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่ว่า การปกป้องผิวเพียงอย่างเดียวอาจจะยังไม่เพียงพอ เพราะไม่สามารถฟื้นฟูดีเอ็นเอที่เสียหายไปแล้วให้กลับคืนมาได้
ด้วยการค้นพบของนักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับรางวัลโนเบล ทำให้ทราบว่า เซลล์มีระบบซ่อมแซมดีเอ็นเอที่เสียหายได้ด้วยตนเอง แต่ประสิทธิ์ภาพในการทำงานในแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะพันธุกรรมและอายุ โดยคนที่มีอายุมากขึ้นความสามารถในการซ่อมแซมดีเอ็นเอจะลดลง หรือในคนที่สัมผัสแสงแดดและรังสียูวี มากเกินไป ก็อาจจะทำให้ความเสียหายของดีเอ็นเอมีมากเกินกว่าระบบการซ่อมแซมของเซลล์จะฟื้นฟูไหว เกิดเป็นความเสียหายต่อเซลล์ผิวในที่สุด
T4N5 คือ เอ็นไซม์ซ่อมแซมดีเอ็นเอที่ได้รับการค้นคว้าวิจัยมามากกว่า 20 ปี จากงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์อย่างต่อเนื่องพบว่า
T4N5 สามารถ ฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสียหายจากแสงแดดและรังสียูวี ลดการกดภูมิคุ้มกันของผิวหนัง ลดการเกิดกระผิวขุย (Actinic keratosis) ได้ 68% และ ลดการเกิดมะเร็งผิวหนัง ได้ถึง 30% ในคนไข้ XerodermaPigmentosum (XP)
เมื่อทา T4N5 บนผิว T4N5 จะแทรกซึมลงไปในเซลล์ผิว ด้วยระบบ Liposome และเอ็นไซม์ซ่อมแซมดีเอ็นเอจะถูกปลดปล่อยออกมาทำงานเมื่อ T4N5 อยู่ภายในเซลล์ผิวแล้ว
T4N5 ทำงานด้วยวิธี Nucleotide Excision Repair (NER) โดยการค้นหาดีเอ็นเอที่เสียหาย แล้วตัดโมเลกุลดีเอ็นเอช่วงนั้นออก หลังจากนั้นก็จะกระตุ้นให้เกิดการเติมโมเลกุลดีเอ็นเอ ที่สมบูรณ์อันใหม่ลงไป ในบริเวณที่ตัดออกทำให้เกิดการซ่อมแซมดีเอ็นเอให้กลับมาเป็นปกติ
จากการวิจัยพบว่า T4N5 Liposome สามารถซึมผ่านผิวหนัง เข้าสู่เซลล์ภายใน 30 นาที หลังการทา และสามารถทำงานภายในเซลล์ นานถึง 12 ชั่วโมง การทา T4N5 Liposome ก่อนออกแดดจะช่วยลดอาการผิวแดงไหม้ ความหมองคล้ำการเกิดฝ้า กระ จากแสงแดดได้ หรือการทาหลังจากสัมผัสแสงแดดแล้วจะช่วยให้อาการผิวแดงไหม้หายเร็วขึ้นภายใน 4-6 ชั่วโมง
นอกจากนี้การทา T4N5 Liposome อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ จะช่วยบำรุงผิวให้แก่ช้าลง เนื่องจากดีเอ็นเอมีความเสียหายน้อย ทำให้ผิวทำงานได้อย่างปกติ มีการซ่อมแซมฟื้นฟูผิวที่ดี
ปัจจุบันการดูแลผิวด้วยครีมบำรุงต่างๆ เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะหากสาเหตุผิวเสียนั้นแท้จริงแล้วอยู่ลึกถึงระดับดีเอ็นเอ การฟื้นฟูดีเอ็นเอที่เสียหาย ‘จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง‘ เพราะเซลล์ที่แข็งแรงจากภายในมีดีเอ็นเอที่สมบูรณ์ จะทำให้เซลล์อายุเซลล์ยืนขึ้น สามารถชะลอวัยผิวและการดูแลรักษาผิวต่างๆ ก็ง่ายขึ้นด้วย
งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
Reversal of DNA Damage in the Skin with DNA Repair Liposomes
Expert Opinion on Biological Therapy
Topical treatment with Liposomes…